คุณพ่อ : นายแพทย์อนิรุธ สาราลักษณ์
คุณแม่ : ปรีดา
สาราลักษณ์
บุตร : ด.ช.อภิสิทธิ์ สาราลักษณ์

(สมาร์ท อิงลิช สาขาตรัง)
 

โดยหลักจริงๆแล้ว ผมเลี้ยงลูกตามตำรา ซื้อหนังสือมาอ่านตั้งแต่เริ่มคิดจะมีลูก หนังสือ พวก "สร้างเด็กให้เป็นอัจฉริยะ" เริ่มพัฒนาลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง แม้แต่การพัฒนาความพร้อมของลูก ก็ควรจะเริ่มกระตุ้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์ คุณหมออนิรุธ ได้เริ่มอีกว่า เด็กเก่ง หรือ เด็กอัจฉริยะ มีเพียง 1 ใน 3 หรือ 30% เท่านั้นเอง ที่ว่าเป็นมาจากธรรมชาติ อีก 70% นี้ก็มาจากการที่เรากระตุ้น ซึ่งต้องได้รับความช่วยเหลือในการกระตุ้นพร้อมๆกันหลายๆด้าน จากพ่อแม่, ครู, สังคม และสิ่งแวดล้อม

ถ้าตั้งใจจะให้ลูกเก่ง พ่อ-แม่ ก็ต้องรู้และเข้าใจแล้วว่านับแต่ต่อไปนี้ เราต้องเหนื่อยแล้ว ในการเลี้ยงลูกให้เก่งนั้น ไม่มีใครเก่งกว่าใคร เพราะฉะนั้นต้องเรียนรู้ไปให้พร้อมๆกัน เหนื่อยพร้อมกัน

ในเรื่องของพี่เลี้ยงที่มาเลี้ยงลูกนั้น คุณปรีดาและคุณหมออนิรุธได้ให้ความคิดเห็นว่าในช่วงกลางวันต้องออกไปทำงาน แต่พอช่วงกลับมาอยู่บ้านช่วงเย็น เราต้องให้ลูกตัดขาดจากพี่เลี้ยงเลย เพื่อที่จะได้นำลูกมาสอนในสิ่งที่วัยเขาควรจะรู้ เวลานอนก็นอนกับคุณพ่อ คุณแม่ ไม่ให้ลูกนอนกับพี่เลี้ยง

ในเรื่องของการพัฒนาลูกนั้น ควรจะพัฒนาเด็กหรือกระตุ้นเด็ก ตั้งแต่อยู่ในท้อง การที่เด็กได้ฟังเสียงคุณพ่อ คุณแม่ ตั้งแต่อยู่ในท้อง กับเด็กที่ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย นอนอยู่เฉยๆในท้อง พัฒนาการของเด็กมันต่างกันมาก การสร้างระบบประสาทที่มาโยงใยกับเซลล์สมองก็จะต่างกัน โดยทั่วไปแล้วเด็กที่ได้รับการกระตุ้นตั้งแต่อยู่ในท้อง เรื่องของความจำ อาจจะไม่แตกต่างกันมากนักกับเด็กที่ไม่ได้รับการกระตุ้น แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดมากก็คือ เรื่องการคำนวณ การวิเคราะห์ เด็กได้กระตุ้นจำทำได้ดีมากๆ

คุณหมอได้เสริมเพิ่มเติมอีกว่า คุณหมอได้ฝึกลูกให้มีการพัฒนาด้านการอ่านโดยเขียนคำว่า "ป่าป้า" "มาม้า" และอีกหลายๆคำลงในกระดาษ แล้วสอนให้ลูกอ่านเมื่ออายุประมาณ 2 ขวบ ผลปรากฏว่าเมื่อพาลูกเข้าโรงเรียนได้รับการยืนยัน จนครูที่โรงเรียนว่า ลูกคุณหมออ่านหนังสือได้เร็วกว่าเด็กคนอื่นๆในห้องเรียน เทคนิคนี้ อาจจะลองนำไปใช้กันบ้างก็ได้นะครับ

SMART ENGLISH HOME WHO ARE WE? BRANCHES COURSES GAMES SME CLUBS CONTACT US